การดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์

          แบตเตอรี่มีความสำคัญกับรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะทำหน้าที่เป็นตัวสำรองไฟฟ้าให้กับรถยนต์ ทั้งตัวรถยนต์ รวมถึงระบบไฟฟ้าต่างๆ เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรมองข้ามเราควรดูแลแบตเตอรี่ของเราให้ดีให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอด เพราะหากเราไม่ดูแลย่อมส่งผลเสียต่อรถยนต์ของเราโดยตรง เช่น รถสตาร์ทไม่ติด ระบบไฟไม่ทำงาน ฯลฯ ซึ่งหลายท่านอาจคิดว่าหน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วเราผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ สามารถดูแลรักษาแบตเตอรี่ของ่รถท่านได้อย่างไม่ยากเลย เพียงเรารู้วิธี

     การดูแลรักษาแบตเตอรี่มีวิธีการง่ายๆ คือ

     1. คอยดูแลและตรวจสอบแบตเตอรี่สม่ำเสมอ ภายนอกมีรอยแตกร้าวหรือไม่

     2. หากพบว่าแบตเตอรี่มีคราบขี้เกลือเกิดขึ้น ให้นำผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดคราบออก

     3. คอยดูแลตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์มาตฐาน ไม่สูงต่ำจนเกินไป

     4. ตรวจเช็คระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์ ว่าอยู่ในเกฑณ์ดีหรือต่ำสูงจนเกินไปไหม

     5. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ไฟมากจนเกินไปในอุณหภูมิที่ต่ำ เพราะ อากาศที่มีอุณหภูมิที่ต่ำจะทำให้ประสิทธิภาพของการกระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นต่ำลง

     6. ก่อนนำอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ มาติดตั้ง ควรศึกษาการใช้ไฟฟ้าของอุปกรณ์นั้นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับระดับกระแสไฟของรถยนต์

     การดูแลเพียงเท่านี้ก็ทำให้แบตเตอรี่อยู่กับรถเราไปได้อีกยาวนาน แต่หากแบตเตอรี่ไม่ได้รับการดูแลก็จะทำให้แบตเตอรี่ของท่านมีอายุการใช้งานได้แค่ประมาณ 1 ปี โดยรถท่านจะเริ่มมีอาการสตาร์ทติดยาก หรือไฟเริ่มไม่ค่อยสว่าง เป็นต้น

---------------------------------------------------------------

ขับขี่ปลอดภัย ด้วยความปราถนาดีจาก KCAR

     บริการรถเช่าระยะสั้น (รายวัน-รายเดือน) และรถเช่าสำหรับองค์กร (รายปี ) พร้อมบริการดูแลรถยนต์ให้ท่านตลอดอายุสัญญาเช่า ดูแลทั้งด้านรถยนต์ การซ่อมบำรุง พรบ. ประกันภัยรถยนต์ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี บริการรถทดแทนระหว่างซ่อม และเจ้าหน้าที่ Call Center ดูแลตลอด 24 ชม.

    สามารถโทรสอบถามรายละเอียดการเช่ารถได้ที่ โทร.02-291-8888 หรือ Line@ : @kcar ได้เลยนะคะ

    หรือ คลิก >>  (ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เลยค่ะ)